
DOTA 2 Guide Hero : Juggernaut - Yurnero
10 กรกฎาคม 2555, 15:50 น. Pageview: 6117 Comment: 0


ฮีโร่สาย Agi ที่เป็น Carry ความหวังของทีมตัวนี้ Juggernaut หรือ Yurnero ที่ถ้าหากใครเคยผ่านไม้ผ่านมือกันมาแล้วก็คงจะรู้ดีว่าอย่าได้เจอเจ้านี่ตัวๆ แบบ 1 ต่อ 1 เป็นอันขาด เพราะตัวเรานี่แหล่ะที่จะขาด 2 ท่อนแน่นอน ฮ่าๆๆ นั่นมันก็เนื่องมาจากท่าไม้ตาย Omnislash ที่จะกระโดดฟันเป้าหมายอย่างบ้าคลั่งซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่มีทางตอบโต้ได้เลย อาาาาห์ แค่อ่านก็ฟินแล้ว...เอาเป็นว่าไปดูกันเลยดีกว่านะ ว่านอกจากนี้แล้วฮีโร่ตัวนี้ยังมีดีอะไรซุกอยู่อีกบ้าง

Hp : 530
Mp : 182
Atk : 44 - 48
Armor : 3.9
Movespeed : 305
Atk Range : 128



Blade Furry


Ability Type : Active
Target Type : Instant
Hotkey : F
กวัดแกว่งดาบหมุนวนรอบตัวของ Juggernaut ทำให้อยู่ในสภาพต้านทานต่อเวทมนตร์ทุกชนิดและสร้างความเสียหายแก่ศัตรูโดยรอบ
Target Type : Instant
Hotkey : F

Level | Mana |
Cooldown
| Cast Range | Area of Effect | Duration | Allow Target | Effect |
1 | 110 | 30 | N/A | 250 | 5 วินาที | ศัตรู | สร้างความเสียหาย 80 ดาเมจต่อวินาที |
2 | 110 | 28 | N/A | 250 | 5 วินาที | ศัตรู | สร้างความเสียหาย 100 ดาเมจต่อวินาที |
3 | 110 | 26 | N/A | 250 | 5 วินาที | ศัตรู | สร้างความเสียหาย 120 ดาเมจต่อวินาที |
4 | 110 | 24 | N/A | 250 | 5 วินาที | ศัตรู | สร้างความเสียหาย 140 ดาเมจต่อวินาที |
• ประเภทความเสียหาย : Magical
• ไม่มีผลกับยูนิต Mechanical
• สามารถใช้ไอเทม (รวมถึง TP Scroll และ Boots of Travel) ได้ในระหว่างใช้ Blade Fury
• ถ้ายูนิตนั้นไม่ได้รับผลจาก Blade Fury จะสามารถโจมตีธรรมดาใส่ได้


Healing Ward

Ability Type : Active
Target Type : Piont
Hotkey : G
เรียก Healing Ward ขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของยูนิตฝ่ายเดียวกันที่อยู่รอบๆ อัตราการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับพลังชีวิตสูงสุดของยูนิต
Target Type : Piont
Hotkey : G

Level | Mana |
Cooldown
| Cast Range | Area of Effect | Duration | Allow Target | Effect |
1 | 80 | 60 | 350 | 500 | 25 วินาที | ตนเองและยูนิตฝั่งเดียวกัน | ฟื้นฟูพลังชีวิต 2% ต่อวินาที โดยคิดจากค่าพลังชีวิตสูงสุด |
2 | 100 | 60 | 350 | 500 | 25 วินาที | ตนเองและยูนิตฝั่งเดียวกัน | ฟื้นฟูพลังชีวิต 3% ต่อวินาที โดยคิดจากค่าพลังชีวิตสูงสุด |
3 | 120 | 60 | 350 | 500 | 25 วินาที | ตนเองและยูนิตฝั่งเดียวกัน | ฟื้นฟูพลังชีวิต 4% ต่อวินาที โดยคิดจากค่าพลังชีวิตสูงสุด |
4 | 140 | 60 | 350 | 500 | 25 วินาที | ตนเองและยูนิตฝั่งเดียวกัน | ฟื้นฟูพลังชีวิต 5% ต่อวินาที โดยคิดจากค่าพลังชีวิตสูงสุด |
• สั่งให้ Healing Ward เคลื่อนที่ได้ (ความเร็วในการเคลื่อนที่ 300)
• ถ้ามี Healing Ward 2 อัน จะได้รับผลแค่อันเดียว
• ไม่มีผลกับยูนิต mechanical
Blade Dance


Ability Type : PassiveTarget Type : N/AHotkey : C
Juggernaut มีโอกาสที่จะโจมตีสร้างความเสียหาย 2 เท่า (Critical) ในการโจมตีแต่ละครั้ง

Level | Mana |
Coodown
| Cast Range | Area of Effect | Duration | Allow Target | Effect |
1 | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | ศัตรู | มีโอกาส 15% |
2 | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | ศัตรู | มีโอกาส 20% |
3 | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | ศัตรู | มีโอกาส 25% |
4 | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | ศัตรู | มีโอกาส 35% |
Omnislash

Ability Type : Active
Target Type : Unit
Hotkey : X

พุ่งเข้าใส่เป้าหมายแล้วทำการฟันโจมตีรวมไปถึงยูนิตใกล้เคียง สร้างความเสียหายต่อเนื่อง Juggernaut จะเป็นอมตะในระหว่างที่ใช้สกิลนี้และทำการ mini-stun เป้าหมายแรก
Target Type : Unit
Hotkey : X

พุ่งเข้าใส่เป้าหมายแล้วทำการฟันโจมตีรวมไปถึงยูนิตใกล้เคียง สร้างความเสียหายต่อเนื่อง Juggernaut จะเป็นอมตะในระหว่างที่ใช้สกิลนี้และทำการ mini-stun เป้าหมายแรก
Level | Mana |
Coodown
| Cast Range | Area of Effect | Duration | Allow Target | Effect |
1 | 200 | 130(110*) | 450 | 425 | N/A | ศัตรู | โจมตีติดต่อกัน 3(6*) ครั้ง โดยจะส้รางความเสียหาย 175 - 250 ดาเมจต่อครั้ง |
2 | 275 | 120(100*) | 450 | 425 | N/A | ศัตรู | โจมตีติดต่อกัน 6(9*) ครั้ง โดยจะส้รางความเสียหาย 175 - 250 ดาเมจต่อครั้ง |
3 | 350 | 110(90*) | 450 | 425 | N/A | ศัตรู | โจมตีติดต่อกัน 9(12*) ครั้ง โดยจะส้รางความเสียหาย 175 - 250 ดาเมจต่อครั้ง |
• ประเภทความเสียหาย : Physical
• สามารถเพิ่มความสามารถได้โดย Aghanim's Scepter (* แสดงค่าที่เพิ่มขึ้น)
• ขัดจังหวะการร่ายที่เป้าหมายหลัก
• การฟันแต่ละครั้งสร้างความเสียหาย 175 - 250 ในรอบเวลา 0.4 วินาที.
• ถ้ามีความเร็วในการโจมตีมากพอ จะสามารถโจมตีด้วยพลังโจมตีของตัวเองได้ในขณะที่กระโดดไปมา ระหว่างนี้จะใช้ผลพิเศษจากการโจมตีนั้นได้ด้วย
• การฟันนี้จะไม่สามารถหลบหลีกได้ แต่การโจมตีธรรมดาที่เพิ่มเข้ามาจะหลบได้
• สามารถใช้ไอเทมระหว่าง Omnislash ได้
• Omnislash จะให้ระยะการมองเห็น 200 ตลอดระยะเวลาที่โจมตี




จุดเด่น
1. มีสกิลที่สามารถ Magic Immunity เป็นของตัวเองแถมยังทำดาเมจได้อีกด้วย
2. สามารถแก็งค์กดดันเกมได้ตั้งแต่ต้นยันท้ายเกม
3. เป็นตัว Carry ที่มีพลังทำลายล้างสูงมากในช่วงท้ายเกม
4. สู้กัน 1 ต่อ 1 ยังไงก็กินขาด เจอกันตัวๆ ส่วนใหญ่เจอแค่อัลติเราฯ เค้าก็เงิบกันแล้ว
5. สามารถเดินเกมได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีเสาฮิลเป็นของตัวเอง
6. มีความเร็วในการโจมตีที่สูง
2. สามารถแก็งค์กดดันเกมได้ตั้งแต่ต้นยันท้ายเกม
3. เป็นตัว Carry ที่มีพลังทำลายล้างสูงมากในช่วงท้ายเกม
4. สู้กัน 1 ต่อ 1 ยังไงก็กินขาด เจอกันตัวๆ ส่วนใหญ่เจอแค่อัลติเราฯ เค้าก็เงิบกันแล้ว
5. สามารถเดินเกมได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีเสาฮิลเป็นของตัวเอง
6. มีความเร็วในการโจมตีที่สูง
จุดด้อย
1. ไม่มีสกิล Disable เป้าหมาย
2. ตัวบางเลือดน้อยเกราะน้อย
3. สกิล Omnislash หากเป้าหมายยืนอยู่หลายตัวจะแชร์ดาเมจกัน หมายหัวตัวไหนไว้อาจจะแห้วไม่เป็นท่า
4. เป็นฮีโร่ที่เก่งในช่วงหลังจริงๆ และถ้าไม่มีของดีๆ ก็ยิ่งเกิดยาก ต้องออกแก็งค์ ไม่ก็ต้องหายไปฟาร์มยาวๆ

Early game (Lv.1-9)
แนวทางการเล่นของฮีโร่ตัวนี้สามารถจัดได้ตั้งแต่เลเวลแรกๆ เลย จึงควรหาคู่หูร่วมเลนที่มีสกิล Disable งามๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่หูที่มีสกิลประเภท Stun, Slow, จับ หรือเสกแกะอะไรก็ตามแต่เปิดให้เราเลย แล้วจัดด้วย Blade Fury ปั่นหน้าแหกหมดครับ ยิ่งถ้าออกรองเท้า Boots มาได้นี่โอกาสรอดมีน้อยมาก หรือถ้าไม่มีคู่หูเปิดเกมให้ก็สงบจิตสงบใจรอเลเวล 6 ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน ส่วนวิธีการก็ง่ายๆ อย่าใช้สกิล Omnislash ขณะที่มี creep ฝั่งตรงข้ามอยู่ เพราะสกิลนี้จะโจมตีแบบสุ่มเป้าหมายหากมีเป้าหมายอยู่ในบริเวณนั้นมากกว่า 1 เป้านั่นเอง แต่ถ้าอยู่แค่คนเดียวหรือ 2 คนหากมีเพื่อนมาช่วงแก็งค์ก็หาจังหวะดีๆ ที่ creep ฝั่งตรงข้ามตายหมดให้รีบจัดหนักได้เลย
ถาม : ทำไมถึงอัพ Blade Fury นำและต้องครบก่อน?
ตอบ : เพราะเป็นสกิลที่มีประโยชน์แถมดาเมจสูงได้เรื่องในช่วงแรก
ถาม : ทำไมถึงอัพ Stat Bonus ก่อนสกิล Blade Dance?
ตอบ : เพราะดาเมจที่ได้จากสกิล Blade Dance ในช่วงต้นเกม เมื่อลองคิดดูแล้วเปลี่ยนมาอัพ Stat คุ้มค่ากว่ามาก แถมยังช่วยแก้ไขข้อเสียที่ Juggernaut มีค่า Mana ที่น้อยนิดออกไปได้**แต่ทั้งนี้ หากใครคิดว่าสามารถจัดการกับค่า Mana ที่น้อยนิดดังกล่าวด้วยการออกไอเทมสาย Int มาแก้ หรือใช้รองเท้า Power Treads แล้วปรับเป็น Int แทน จากนั้นเปลี่ยนมาอัพ Blade Dance ก่อนก็ได้เช่นกันตามถนัด
ส่วนไอเทมที่ Juggernaut ควรออกเพื่อการเก็บเลเวลในแรก
,
,
,
,
และ
ก็มีกันเหนียวให้แบบครบๆ พกขวด Mana ไปด้วยเผื่อใช้เติมหลังจากกดปั่นสกิล Blade Fury เพื่อฆ่าศัตรูหรือปั่นเพื่อลาสช็อต creep นั่นเอง จากนั้นให้รีบออก
มาเพื่อให้ปั่นสกิล Blade Fury แบบเป้าหมายหนีเราไม่ได้ ต่อมาให้เราวางแผนการออกไอเทมในใจไว้เลย แนะนำว่าหากโดนกดดันมากๆ ให้ออก Wraith Band
มาก่อนสัก 2 ชิ้น แล้วค่อยคิดว่าควรตามด้วย Ring of Health
เพื่อฟื้นฟูค่า HP ได้เร็วขึ้นและยังเป็นทางผ่านเพื่อออก Perseverance
และจะได้ต่อยอดไปที่ Battle Fury
นั่นเอง หรือใครจะเปลี่ยนส่วนผสมไปออก Vanguard
เพื่อความอึดยืนทนไม้ทนมือได้นานขึ้นก็เอาเถอะ
ปล**ออกของชิ้นแรกได้แล้วอย่าลืมแวะมาอัพเกรดรองเท้าเป็น Power Treads
กันด้วยนะ
Mid Game (Lv.10-15)
หน้าที่ของ Juggernaut ในช่วงกลางเกมนี้ให้รีบเดินหน้าเก็บเงินเก็บออกของดาเมจชิ้นแรกให้เร็วที่สุด หากมีเพื่อนช่วยแก็งค์ให้ไปอย่ารีรอ แต่หากใครชอบแบบปลอดภัยก็ฟาร์มเลนแล้วแวะสลับฟาร์มป่ายาวๆ เมื่อของเริ่มมาและเก็บจนอัพเลเวล 11 แล้วการไล่ล่ารอบ 2 ก็จะง่ายขึ้นเพราะ Omnislash จะรุนแรงขึ้นอีกระดับ อาจจะซ่าเปลี่ยนสไตล์เป็นเดินออกล่าในป่าฝั่งตรงข้ามเพื่อหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เดินหลงมาหรือกำลังฟาร์ม creep ป่าเพลินๆ ก็จัดหนักกระโดดซอย Omnislash กันได้เลย แต่หากซวยเดินไปเจอตอเข้าให้ ก็รีบกด Blade Fury ปั่นหนีออกมาให้ไวเชียว
เนื่องจากฮีโร่ตัวนี้จะเน้นหนักในการโจมตีมี 2 แบบ คือใช้ท่าไม้ตายโจมตี Omnislash + Blade Fury จากนั้นกลายเป็นยืนตีกันสดๆ ดังนั้นไอเทมที่ควรออกก็ควรออกมาให้ครบๆ ที่เพิ่มทั้งค่าดาเมจและความเร็วในการโจมตีที่สูงขึ้นอย่าง Battle Fury
, Desolator
, Sange & Yasha
, Diffusal Blade
, Butterfly
หรือ Mjollnir
ใครชอบชิ้นไหนออกโลดสัก 2 ชิ้น ส่วนไอเทมชิ้นต่อไปนั้นก็ควรดูตามสถานะการณ์ที่เหล่าฮีโร่ฝั่งตรงข้าม หากเจอเข้ากับทีม Int ที่ชอบใช้สกิลก็รีบเดินหน้าออก BKB
ให้ได้ก็ดี หรืออาจจะออกไอเทมดูดเลือดแบบออร่า
ได้ทั้งตนเองและเพื่อนร่วมทีม ก็จัดได้ว่า Ok ออกมาด่วนๆ
ปล**ถ้าหากใครอยากกรโดดสับด้วย Omnislash ที่มีจำนวนครั้งที่มาขึ้นแล้ว Aaghanim's Scepter
ช่วยคุณได้!!
2. ตัวบางเลือดน้อยเกราะน้อย
3. สกิล Omnislash หากเป้าหมายยืนอยู่หลายตัวจะแชร์ดาเมจกัน หมายหัวตัวไหนไว้อาจจะแห้วไม่เป็นท่า
4. เป็นฮีโร่ที่เก่งในช่วงหลังจริงๆ และถ้าไม่มีของดีๆ ก็ยิ่งเกิดยาก ต้องออกแก็งค์ ไม่ก็ต้องหายไปฟาร์มยาวๆ

Early game (Lv.1-9)
แนวทางการเล่นของฮีโร่ตัวนี้สามารถจัดได้ตั้งแต่เลเวลแรกๆ เลย จึงควรหาคู่หูร่วมเลนที่มีสกิล Disable งามๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่หูที่มีสกิลประเภท Stun, Slow, จับ หรือเสกแกะอะไรก็ตามแต่เปิดให้เราเลย แล้วจัดด้วย Blade Fury ปั่นหน้าแหกหมดครับ ยิ่งถ้าออกรองเท้า Boots มาได้นี่โอกาสรอดมีน้อยมาก หรือถ้าไม่มีคู่หูเปิดเกมให้ก็สงบจิตสงบใจรอเลเวล 6 ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน ส่วนวิธีการก็ง่ายๆ อย่าใช้สกิล Omnislash ขณะที่มี creep ฝั่งตรงข้ามอยู่ เพราะสกิลนี้จะโจมตีแบบสุ่มเป้าหมายหากมีเป้าหมายอยู่ในบริเวณนั้นมากกว่า 1 เป้านั่นเอง แต่ถ้าอยู่แค่คนเดียวหรือ 2 คนหากมีเพื่อนมาช่วงแก็งค์ก็หาจังหวะดีๆ ที่ creep ฝั่งตรงข้ามตายหมดให้รีบจัดหนักได้เลย
ถาม : ทำไมถึงอัพ Blade Fury นำและต้องครบก่อน?
ตอบ : เพราะเป็นสกิลที่มีประโยชน์แถมดาเมจสูงได้เรื่องในช่วงแรก
ถาม : ทำไมถึงอัพ Stat Bonus ก่อนสกิล Blade Dance?
ตอบ : เพราะดาเมจที่ได้จากสกิล Blade Dance ในช่วงต้นเกม เมื่อลองคิดดูแล้วเปลี่ยนมาอัพ Stat คุ้มค่ากว่ามาก แถมยังช่วยแก้ไขข้อเสียที่ Juggernaut มีค่า Mana ที่น้อยนิดออกไปได้**แต่ทั้งนี้ หากใครคิดว่าสามารถจัดการกับค่า Mana ที่น้อยนิดดังกล่าวด้วยการออกไอเทมสาย Int มาแก้ หรือใช้รองเท้า Power Treads แล้วปรับเป็น Int แทน จากนั้นเปลี่ยนมาอัพ Blade Dance ก่อนก็ได้เช่นกันตามถนัด
ส่วนไอเทมที่ Juggernaut ควรออกเพื่อการเก็บเลเวลในแรก












ปล**ออกของชิ้นแรกได้แล้วอย่าลืมแวะมาอัพเกรดรองเท้าเป็น Power Treads

Mid Game (Lv.10-15)
หน้าที่ของ Juggernaut ในช่วงกลางเกมนี้ให้รีบเดินหน้าเก็บเงินเก็บออกของดาเมจชิ้นแรกให้เร็วที่สุด หากมีเพื่อนช่วยแก็งค์ให้ไปอย่ารีรอ แต่หากใครชอบแบบปลอดภัยก็ฟาร์มเลนแล้วแวะสลับฟาร์มป่ายาวๆ เมื่อของเริ่มมาและเก็บจนอัพเลเวล 11 แล้วการไล่ล่ารอบ 2 ก็จะง่ายขึ้นเพราะ Omnislash จะรุนแรงขึ้นอีกระดับ อาจจะซ่าเปลี่ยนสไตล์เป็นเดินออกล่าในป่าฝั่งตรงข้ามเพื่อหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เดินหลงมาหรือกำลังฟาร์ม creep ป่าเพลินๆ ก็จัดหนักกระโดดซอย Omnislash กันได้เลย แต่หากซวยเดินไปเจอตอเข้าให้ ก็รีบกด Blade Fury ปั่นหนีออกมาให้ไวเชียว
เนื่องจากฮีโร่ตัวนี้จะเน้นหนักในการโจมตีมี 2 แบบ คือใช้ท่าไม้ตายโจมตี Omnislash + Blade Fury จากนั้นกลายเป็นยืนตีกันสดๆ ดังนั้นไอเทมที่ควรออกก็ควรออกมาให้ครบๆ ที่เพิ่มทั้งค่าดาเมจและความเร็วในการโจมตีที่สูงขึ้นอย่าง Battle Fury








ปล**ถ้าหากใครอยากกรโดดสับด้วย Omnislash ที่มีจำนวนครั้งที่มาขึ้นแล้ว Aaghanim's Scepter

Late Game (Lv.16+)
เข้าสู่ช่วงหลังตามแบบฉบับหนังไทยเพราะตำรวจชอบมาตอนจบ หาก Juggernaut ออกของและเก็บเลเวลได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ก็ถึงคราวเรารับช่วงต่อหลังจากปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมรับบทหนักกันมานาน เดินหน้าไล่สับให้แหลก ใครยังไม่ออก BKB
ก็รีบออกมาได้แล้วในช่วงนี้ หรือถ้ามีเพื่อนเปิดเกมให้แบบชัวร์ๆ แล้วหากอยากออกชิ้นอื่นที่เหลือจากที่แนะนำไปในช่วงกลางเกมก็จัดมาให้ไว้อย่าง Butterfly
หรือ Mjollnir
รับลองว่าถ้าออกมาได้แมทซ์นั้นจะตราตรึงใจไปอีกนาน
ไอเทมแนะนำ
Satanic สักชิ้น เพิ่ม Max HP + กดดูดเลือดแบบบ้าคลั่ง
Hyperstone ตบเร็วมีชัยไปกว่าครึ่ง ออกของดาเมจหนักๆ แล้วเลี้ยวมาแวะที่ Hyper Stone ชิ้นนี้ก็ Ok !!
Assault Cuiass อีกสักชิ้นต่อยอดจาก Hyperstone ตีเร็ว + เพิ่มความฟิต + ลดเกราะเป้าหมาย
Radiance ชิ้นนี้ได้ค่าดาเมจที่สูง แถมยังมีดาเมจแบบ Overtime เผาผลาญกันต่อเนื่องอีกด้วย
เข้าสู่ช่วงหลังตามแบบฉบับหนังไทยเพราะตำรวจชอบมาตอนจบ หาก Juggernaut ออกของและเก็บเลเวลได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ก็ถึงคราวเรารับช่วงต่อหลังจากปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมรับบทหนักกันมานาน เดินหน้าไล่สับให้แหลก ใครยังไม่ออก BKB



ไอเทมแนะนำ




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น